Saturday, June 29, 2013

การปลูก ต้นตะลิงปลิง

การปลูก ต้นตะลิงปลิง
          ลักษณะทางธรรมชาติ
http://i1092.photobucket.com/albums/i414/priraya/266.jpg                
       * เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง  ต้นสูงเต็มที่ 5-7 ม.  ทรงพุ่มโปร่งและแตกกิ่งก้านเหมือนมะเฟือง ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล  ชอบดินเหนียวร่วน  มีอินทรีย์วัตถุมากๆ  ต้องการความชื้นสูง  เจริญเติบดีในพื้นที่มีน้ำตลอดปีเหมือนมะพร้าว  ตาล  จาก เช่น  ริมคลอง
               

       * ปลูกบนที่ดอนเมื่อถึงช่วงหน้าแล้งจะผลัดใบพักต้น  เมื่อได้ฝนก็จะแตกใบอ่อนพร้อมกับออกดอก  ส่วนแปลงที่ได้รับน้ำตลอดปี  หลังตัดแต่งกิ่งแล้วแตกใบอ่อนก็จะมีดอกออกมาแบบไม่มีฤดูกาล  
               

       * ออกดอกติดผลตลอดปีละรุ่น  โดยออกดอกช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.  ผลแก่เก็บเกี่ยวช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.  พร้อมกับมะม่วงปี  แต่ถ้าได้บำรุงแบบให้มีสารอาหารกินตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องหลายๆปีก็จะออกดอกติดผลตลอดปีแบบไม่มีรุ่นได้ 
                 

       * เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น  2  ปีหลังปลูก
               

       * ออกดอกติดผลที่กิ่งแก่และลำต้นเหมือนมะเฟือง ดอกสีชมพูสวยมาก  เป็นดอกสมบูรณ์เพศผสมตัวเองหรือต่างดอกต่างต้นได้
               

       * อายุผลผลิตตั้งแต่ออกดอก ถึง เก็บเกี่ยว 75 วัน
               

       * รสเปรี้ยวจัดกว่ามะนาวมาก
                

          สายพันธุ์
               
          นิยมปลูกเพียงสายพันธุ์เดียว  คือ  พันธุ์พื้นเมือง
                

          การขยายพันธุ์
               
          ตอน (ดีที่สุด). ทาบกิ่ง.  เสียบยอด.  เพาะเมล็ด (ไม่กลายพันธุ์).
                
          ระยะปลูก
               
        - ระยะปกติ  4 X 4  ม. หรือ  6 X 6 ม.
               
        - ระยะชิด    2 X 2  ม. หรือ  2 X 4 ม.
                

          เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ  
               
        - ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา (แห้งเก่าข้ามปี) ปีละ 2 ครั้ง
  
      - ให้ยิบซั่มธรรมชาติ  ปีละ 2 ครั้ง               
        - ให้กระดูกป่น  ปีละ 1 ครั้ง  
               
        - คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
        - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง               
          หมายเหตุ :
               
        - การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่  ปลาสด  เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขตทรงพุ่ม 4-5 หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆปีจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน  
              
        - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตกใบอ่อน  ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่  การให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่ระบาดของเชื้อราได้  
               
      
  - ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพความสมบูรณ์สูง                

          เตรียมต้น 
                          ตัดแต่งกิ่ง :               
        - ตะลิงปลิงเป็นไม้ทิ้งกิ่งเองเมื่อกิ่งใดแก่ก็จะแห้งแล้วหลุดร่วงได้เอง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตัดแต่งกิ่งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติบำรุง อย่างไรก็ตามการปฏิบัติบำรุงตามขั้นตอนย่อมได้ผลดีกว่าปล่อยให้เป็นไปตาม ธรรมชาติ  นั่นคือ  การตัดแต่งกิ่งก็ยังคงมีความสำคัญและจำเป็นอยู่     
               
        - ตัดแต่งเพื่อการแตกยอดใหม่ให้ตัดกิ่งกระโดง  กิ่งในทรงพุ่ม  กิ่งคดงอ  กิ่งชี้ลง  กิ่งไขว้ กิ่งหางหนู กิ่งเป็นโรค  ทั้งนี้ภายในทรงพุ่มควรให้โปร่งจนแสงส่องผ่านลงไปถึงโคนต้นได้
        - ตัดกิ่งทิ้งเพื่อไม่ให้แตกยอดใหม่ป้องกันทรงพุ่มทึบเกินไปให้ตัดชิดลำกิ่งประธาน        - ถ้าต้องการควบคุมขนาดทรงพุ่มก็ต้องตัดกิ่งแก่ กรณีนี้ให้บำรุงต้นก่อนแล้วลงมือตัดได้เลย  กิ่งแก่ใดที่มีใบและกิ่งแขนงติดอยู่มาก หลังจากตัดปลายกิ่งแก่จนเป็นกิ่งด้วนไปแล้วมักมีดอกออกมาตามซอกใบด้วยเสมอ  ซึ่งถ้าต้นสมบูรณ์ดีจริงๆจะมีดอกมากกว่าการตัดปลายกิ่งอ่อนด้วยซ้ำ               
        - ตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ  นอกจากช่วยทำให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึงแล้วแสง แดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี และเพื่อควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย
               
        - นิสัยการออกออกดอกของตะลิงปลิงไม่จำเป็นต้องกระทบหนาว การตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อนช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไป ตามลำดับจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์ดีกว่ากว่าตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น
               
          ตัดแต่งราก :
               
        - ระยะที่ต้นอายุยังน้อยไม่ควรตัดแต่งราก  แต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการหาอาหารดียิ่งขึ้นใช้วิธี ล่อรากด้วยการพูนโคนต้นด้วยดิน 3 ส่วนกับอินทรีย์วัตถุ 1 ส่วน
        - ต้น อายุหลายปี  ระบบรากเก่าและแก่มาก  ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน 4 ด้วยการพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกรากใหม่จำนวนมากขึ้นและมี ประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม 

3 comments:

  1. มีศัตรูพืชหรือเปล่าคะ (กลัวมีนอน)

    ReplyDelete
  2. เห็นแล้วเปรี้ยวปาก

    ReplyDelete
  3. ไม่มีหนอนนะคะ

    ReplyDelete